22
สิวอักเสบ เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนหรือโฟลิเคิลของขนด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมันที่ผลิตจากผิวหนัง (sebum) และน้ำมันในผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนัง เมื่อเกิดการอุดตันนี้ จะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมาตอบสนอง ทำให้เกิดอาการแดง บวม และเจ็บที่เป็นลักษณะเฉพาะของสิวอักเสบ
ประเภทของสิวอักเสบ
- พัสทูล (Pustules) ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ บนผิวหนังที่มีหนองอยู่ภายใน พัสทูลมักจะมีอาการบวมแดงรอบๆ และมีหัวสีขาวหรือเหลือง
- โนดูล (Nodules) เป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่และเจ็บมากกว่า สิวแบบนี้อาจไม่เห็นหัวสิวและเป็นสิวที่หายช้ากว่า
- ซีสต์ (Cysts) เป็นก้อนนุ่มๆ ขนาดใหญ่ที่มีของเหลวอยู่ภายใน ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง ซีสต์มักมีลักษณะเจ็บและอาจทำให้เกิดแผลเป็นถาวรได้
สาเหตุของสิวอักเสบ
- การอุดตันของรูขุมขน การอุดตันของรูขุมขนเกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมันในผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนัง และน้ำมันที่ผลิตจากผิวหนัง (sebum) ที่ผสมกันทำให้เกิดการอุดตัน
- การติดเชื้อแบคทีเรีย แบคทีเรียชนิด Propionibacterium acnes (P. acnes) เจริญเติบโตในรูขุมขนที่อุดตัน ทำให้เกิดการอักเสบ แบคทีเรียชนิดนี้ปล่อยสารพิษที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในผิวหนัง
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจน สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอักเสบในวัยรุ่นและผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน
- พันธุกรรม คนที่มีประวัติครอบครัวที่มีปัญหาสิวอักเสบมีโอกาสสูงที่จะมีปัญหานี้เช่นกัน พันธุกรรมสามารถกำหนดระดับของการผลิตน้ำมันและความไวของผิวต่อการอักเสบ
วิธีการรักษาสิวอักเสบ
การใช้ยาทา (Topical Treatments)
- กรดอะเซลิก (Azelaic acid) มีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียและลดการอักเสบ กรดอะเซลิกช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิว
- เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) ช่วยฆ่าแบคทีเรีย P. acnes และลดการอักเสบ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นรูปแบบของวิตามินบี3 มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น ไนอาซินาไมด์ช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิว
- เรตินอยด์ (Retinoids) เป็นสารเคมีรูปแบบของวิตามินเอ เช่น เทรติโนอิน (Tretinoin) และอะดาพาลีน (Adapalene) ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดการอุดตันของรูขุมขน
- กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและลดการอุดตันของรูขุมขน กรดซาลิไซลิกยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ
- ยาปฏิชีวนะทาภายนอก (Topical Antibiotics) เช่น คลินดามัยซิน (Clindamycin) และอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) ช่วยลดการอักเสบและฆ่าแบคทีเรีย
การใช้ยารับประทาน (Oral Medications)
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เช่น ดอกซีไซคลิน (Doxycycline) หรือ เตตราไซคลิน (Tetracycline) ช่วยลดการอักเสบและฆ่าแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะรับประทานมักใช้สำหรับสิวอักเสบที่รุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาทา
- ดาพโซน (Dapsone) เป็นยาต้านการติดเชื้อที่ช่วยลดการอักเสบ ดาพโซนสามารถใช้ร่วมกับยาทาหรือยารับประทานอื่นๆ
- การรักษาด้วยฮอร์โมน (Hormonal Therapy) เช่น การใช้ยาคุมกำเนิดหรือ สไปโรโนแลกโตน (Spironolactone) ซึ่งเป็นยาต้านแอนโดรเจน การรักษาด้วยฮอร์โมนสามารถช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันและลดการเกิดสิวในผู้หญิง
- ไอโซเตรติโนอิน (Isotretinoin) เป็นรูปแบบของวิตามินเอที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวอักเสบที่รุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ ไอโซเตรติโนอินสามารถทำให้สิวหายขาดได้แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
วิธีการรักษาอื่นๆ
- การทำเลเซอร์ (Laser Therapy) การทำเลเซอร์ใช้แสงในการฆ่าแบคทีเรียและลดการอักเสบ การทำเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
- การฉีดคอร์ติโซน (Cortisone Injection) การฉีดคอร์ติโซนเข้าไปในสิวอักเสบเพื่อลดการอักเสบและบวม ผลลัพธ์จะเร็วและมักใช้ในการรักษาสิวที่มีการอักเสบรุนแรง
- การผ่าตัดสิว (Acne Surgery) การผ่าตัดสิวใช้เข็มและมีดเล็กๆ ในการกำจัดสิวหัวดำหรือมิลเลีย (Milia) การผ่าตัดสิวต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแผลเป็น
การป้องกันสิวอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า การสัมผัสหน้าอาจทำให้สิ่งสกปรกและน้ำมันจากมือเข้าสู่รูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันและการอักเสบ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิว เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มอยเจอร์ไรเซอร์ และเครื่องสำอางที่ไม่มีน้ำมันและไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดสิว ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิวจะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
- ไม่บีบสิว การบีบสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดรอยแผลเป็นและรอยดำจากสิว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จำกัดการบริโภคน้ำตาลและนม ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุลจะช่วยรักษาสุขภาพผิว
- ล้างหน้าและบำรุงผิวเป็นประจำ ล้างหน้าและทามอยเจอร์ไรเซอร์เช้าเย็น รวมถึงหลังออกกำลังกาย การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดการอุดตันและการเกิดสิว
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่สามารถทำให้สิวอักเสบเกิดขึ้นและรุนแรงขึ้น การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว
การดูแลสิวอักเสบต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และวิธีการที่เหมาะสม การรักษาสิวอักเสบด้วยวิธีที่ถูกต้องจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูสวยและสุขภาพดีในระยะยาว