การดูแลผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสวยงามและสุขภาพของผิว แต่ยังมีความเข้าใจผิดหลายอย่างเกี่ยวกับการใช้ ครีมกันแดด ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์นี้ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์เพื่อไขข้อสงสัยและแก้ไขความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ครีมกันแดด
1. ครีมกันแดดใช้เฉพาะในวันที่แดดจัดเท่านั้น
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการใช้ ครีมกันแดด เฉพาะในวันที่แดดจัดหรือเมื่อออกไปข้างนอกในช่วงกลางวัน แท้จริงแล้ว รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) สามารถทำลายผิวได้แม้ในวันที่มีเมฆปกคลุมหรือวันที่ฝนตก ควรใช้ ครีมกันแดด ทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่สามารถทำลายผิวและทำให้เกิดริ้วรอยได้ การใช้ ครีมกันแดด ทุกวันยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
2. ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงสามารถปกป้องผิวได้ตลอดวัน
หลายคนเข้าใจผิดว่าการใช้ ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF สูงจะสามารถปกป้องผิวได้ตลอดทั้งวัน ความจริงคือค่า SPF บอกถึงระดับการป้องกันรังสี UVB แต่ไม่ได้บอกถึงระยะเวลาที่สามารถป้องกันได้ การใช้ ครีมกันแดด ควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ แม้ว่าจะใช้ครีมที่มีค่า SPF สูงก็ตาม นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงการเลือก ครีมกันแดด ที่มีความสามารถในการป้องกันรังสี UVA ด้วย
3. ใช้ครีมกันแดดปริมาณน้อยก็เพียงพอ
หลายคนใช้ ครีมกันแดด ในปริมาณน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของการป้องกันลดลง การใช้ ครีมกันแดด ในปริมาณที่เหมาะสมคือประมาณ 1 ช้อนชา หรือ 2 มิลลิกรัมต่อพื้นที่ผิว 1 ตารางเซนติเมตร สำหรับใบหน้าและลำคอ เพื่อให้ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ นอกจากนี้ยังควรทาครีมกันแดดให้ทั่วถึงทุกส่วนของร่างกายที่ถูกแดด
4. การใช้เมคอัพที่มี SPF เพียงพอต่อการป้องกันแสงแดด
เมคอัพที่มีส่วนผสมของ ครีมกันแดด อาจมี SPF แต่ปริมาณที่ใช้เมคอัพบนใบหน้าไม่เพียงพอที่จะให้การป้องกันที่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรใช้ ครีมกันแดด ก่อนการแต่งหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าผิวได้รับการปกป้องจากรังสี UV อย่างเต็มที่
5. ผิวคล้ำไม่ต้องใช้ครีมกันแดด
แม้ว่าผิวคล้ำจะมีเมลานินที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV บ้าง แต่ก็ยังสามารถได้รับความเสียหายจากรังสี UV ได้เช่นกัน ผิวคล้ำมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งผิวหนังและริ้วรอยจากแสงแดดเหมือนกับผิวสีอื่นๆ การใช้ ครีมกันแดด เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกสภาพผิว
6. การใช้ครีมกันแดดทำให้ขาดวิตามินดี
มีความกังวลว่าการใช้ ครีมกันแดด อาจทำให้ร่างกายขาดวิตามินดี แต่การทาครีมกันแดดไม่ส่งผลต่อการผลิตวิตามินดีในร่างกายอย่างมีนัยสำคัญ ร่างกายสามารถผลิตวิตามินดีได้จากแสงแดดเพียงเล็กน้อยที่สามารถผ่านครีมกันแดดได้ ดังนั้น การใช้ ครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ
7. การใช้ครีมกันแดดเพียงครั้งเดียวต่อวันเพียงพอ
การทา ครีมกันแดด เพียงครั้งเดียวในตอนเช้าไม่เพียงพอตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหากคุณต้องเผชิญกับแดดแรง การทาซ้ำเป็นระยะทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออก เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ได้ผลการป้องกันที่ดีที่สุด
8. ครีมกันแดดไม่จำเป็นในที่ร่ม
แม้ว่าคุณจะอยู่ในที่ร่มหรือในอาคาร แต่รังสี UV ยังสามารถสะท้อนเข้ามาได้ผ่านหน้าต่างหรือพื้นผิวที่สะท้อนแสง ดังนั้นการใช้ ครีมกันแดด เป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
9. ครีมกันแดดหมดอายุยังใช้งานได้
ครีมกันแดด ที่หมดอายุจะไม่สามารถให้การปกป้องได้เต็มที่และอาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง ควรตรวจสอบวันหมดอายุของ ครีมกันแดด และทิ้งผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุไปแล้ว
10. ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดในวันที่มีเมฆมาก
แม้ในวันที่มีเมฆมากถึง 80% ของรังสี UV ยังสามารถทะลุผ่านเมฆได้ การใช้ ครีมกันแดด ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวันแดดจัดหรือวันที่มีเมฆมาก เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิว
11. ครีมกันแดดกันน้ำปกป้องผิวได้ตลอดเวลา
ครีมกันแดด ที่ระบุว่า “กันน้ำ” หรือ “กันเหงื่อ” ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องผิวได้ตลอดเวลา การทาครีมกันแดดใหม่หลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมากเป็นสิ่งสำคัญ
12. ใช้ครีมกันแดดเฉพาะในฤดูร้อน
ครีมกันแดด ไม่ควรถูกจำกัดการใช้เฉพาะในฤดูร้อน รังสี UV สามารถทำลายผิวได้ทุกฤดูกาล การใช้ ครีมกันแดด ตลอดทั้งปีเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวจากความเสียหาย
13. SPF 50 ให้การปกป้องมากกว่า SPF 30 อย่างชัดเจน
แม้ว่า SPF 50 จะให้การปกป้องที่สูงกว่า SPF 30 แต่ความแตกต่างไม่ได้มากขนาดนั้น SPF 30 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 97% ในขณะที่ SPF 50 ป้องกันได้ประมาณ 98% การเลือกใช้ ครีมกันแดด ที่เหมาะสมกับกิจกรรมและสภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า
14. เด็กไม่ต้องใช้ครีมกันแดด
ผิวของเด็กมีความบอบบางและเสี่ยงต่อความเสียหายจากรังสี UV มากกว่าผู้ใหญ่ การใช้ ครีมกันแดด สำหรับเด็กที่มีค่า SPF เหมาะสมและไม่ระคายเคืองต่อผิวเป็นสิ่งจำเป็น
15. การทาครีมกันแดดมากขึ้นจะได้ผลปกป้องดีกว่า
การใช้ ครีมกันแดด ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ การทามากเกินไปไม่ทำให้ได้ผลปกป้องเพิ่มขึ้น แต่ควรทาในปริมาณที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ
การใช้ ครีมกันแดด อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวจากความเสียหายจากรังสี UV การเข้าใจและปรับปรุงวิธีการใช้ครีมกันแดดให้ถูกต้องจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและรักษาผิวให้สวยงามและสุขภาพดีไปนานๆ
